{{ 'fb_in_app_browser_popup.desc' | translate }} {{ 'fb_in_app_browser_popup.copy_link' | translate }}
{{ 'in_app_browser_popup.desc' | translate }}
ไม่ว่าจะเจอปัญหาใดๆ ก็ตาม การยอมรับและเผชิญหน้ากับโรคภัยไข้เจ็บนั้นเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุด ก่อนอื่นให้เข้าใจโรคเอดส์ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย เข้าใจเส้นทางการแพร่เชื้อและอาการ และป้องกันก่อนที่มันจะเกิดขึ้น เพื่อที่คุณจะได้รู้จักตัวเองและศัตรู และป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ!
ความแตกต่างระหว่างHIVและAIDS?
หรือที่เรียกว่าไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องของมนุษย์ (Human Immunodeficiency Virus) เป็นไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์โดยเฉพาะ และสามารถติดต่อจากคนสู่คนผ่านทางของเหลว
รู้จักกันในชื่อโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่ได้มา (Acquired Immune Deficiency Syndrome) เป็นโรคที่ผู้ติดเชื้อHIVมีโอกาสเป็น
การติดเชื้อHIVไม่ได้ทำให้เป็นโรคเอดส์เสมอไป
ก่อนเริ่มเป็นโรคเอดส์ จะเรียกผู้ที่ติดเชื้อHIVว่า "ผู้ติดเชื้อเอดส์" เมื่อร่างกายถูกไวรัสเอดส์โจมตี หากพาหะนำเชื้อ HIV ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม เซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดลงอย่างมากในระยะยาว ภูมิคุ้มกันจะลดลง และเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะไม่สามารถต้านทานได้ การบุกรุกของเชื้อโรคหากพัฒนาถึงระยะที่ 3 ก็จะพัฒนาเป็นโรคเอดส์ ดังนั้นผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีไม่จำเป็นต้องเป็นโรคเอดส์ แต่ผู้ที่เป็นโรคเอดส์จะต้องมีเชื้อไวรัสเอชไอวี
กระบวนการของการติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่เริ่มมีอาการ สามารถแบ่งออกเป็นสามระยะ :
เส้นทางการแพร่เชื้อเอดส์:
1. พฤติกรรมทางเพศ: พฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัย โดยมีคู่นอนที่ไม่แน่นอน หากคู่นอนติดเชื้อ HIV สามารถติดเชื้อผ่านพฤติกรรมทางเพศ เช่น การจูบและการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ช่องคลอด ทวารหนัก เป็นต้น
2. การติดเชื้อในกระแสเลือด: การใช้เข็มร่วมกับผู้อื่น เช่น การใช้เข็มหรือกระบอกฉีดยาร่วมกับผู้ติดสารเสพติด เพื่อฉีดเข้าหลอดเลือด การถ่ายหรือสัมผัสกับการเตรียมเลือดของผู้ติดเชื้อเอชไอวี และการรับการปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้ป่วยโรคเอดส์ล้วนทำให้เกิดการติดเชื้อได้
3. การติดเชื้อจากแม่สู่ลูก: แม่ที่ติดเชื้อไวรัสจะส่งต่อเชื้อไวรัสไปยังทารกแรกเกิดในระหว่างตั้งครรภ์ คลอดบุตร หรือให้นมบุตร
ข้อควรระวังก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์:
1.การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีก่อนการสัมผัสเชื้อ การใช้ยาต้านไวรัสPrEPก่อนพฤติกรรมเสี่ยง :
หากคุณไม่แน่ใจว่าคนที่คุณมีเพศสัมพันธ์ด้วย ติดเชื้อ HIV หรือไม่ คุณสามารถทานยาป้องกัน PrEP "ก่อน" สัมผัสเชื้อ HIV เพื่อให้ร่างกายผลิตยาในระดับความเข้มข้น ป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อ โดยรับประทานครั้งละ 2 เม็ด ก่อนมีเพศสัมพันธ์ 2-24 ชั่วโมง และรับประทานเม็ดที่2หลังรับประทานยาไปแล้ว 24 ชั่วโมง 48 ชั่วโมง ถึงจะถือว่าเป็นกระบวนการที่สมบูรณ์ แต่ยานี้ไม่เหมาะกับสตรี
2.ยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ในกรณีฉุกเฉิน การใช้ยาPEPหลังสัมผัสความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวี:
หากมีพฤติกรรมใด ๆ ที่เสี่ยงติดเชื้อ สัมผัสโดยตรงกับเลือดของเอชไอวี หลังจากการประเมินของแพทย์แล้ว สามารถให้ยาป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้ วิธีรับประทานยา คือ รับประทานยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังสัมผัส และรับประทานทุกวันเป็นเวลา 28 วัน แล้วกลับมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ
先別急著關掉網頁!以下是可樂研究社的其他平台⬇️⬇️⬇️
———————————————
▶️可樂研究社嚴選商城◀️
官方商城:https://www.colaresearchclub.co
▶️ 可樂研究社嚴選超優質蝦皮商城 ◀️
Shopee:https://shopee.tw/colaresearchclub_co
———————————————
▶️ 訂閱可樂研究社頻道,第一時間通知你最新兩性新知!◀️
YouTube:https://lihi1.com/dlFOh
———————————————
▶️ 觀看可樂研究社其他社群◀️
Facebook:https://lihi1.com/XcKqm
Instagram:https://lihi1.com/Glc4Q