{{ 'fb_in_app_browser_popup.desc' | translate }} {{ 'fb_in_app_browser_popup.copy_link' | translate }}
{{ 'in_app_browser_popup.desc' | translate }}
ควรขลิบอวัยวะเพศหรือไม่ เป็นปัญหาสำหรับคุณผู้ชายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีข่าวสารมากมายเสนอว่าการขลิบอวัยวะเพศสามารถปรับปรุงและเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศให้อึดทนมากขึ้น? ขนาดองคชาตก็จะใหญ่ขึ้น?
บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะอย่างละเอียด อันดับแรกเริ่มจากเรียนรู้และทำความเข้าใจการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะ จากนั้นค่อยวิเคราะห์ พิจารณาว่าตัวเองเหมาะสมหรือควรทำการขลิบอวัยวะเพศของคุณหรือไม่!
หนังหุ้มปลายอวัยวะเป็นเหมือนเสื้อคลุมบาง ๆ บนองคชาตชาย มีช่องเปิดของท่อปัสสาวะอยู่ตรงกลาง เพื่อให้ผู้ชายสามารถปัสสาวะได้ นอกจากนี้หนังหุ้มปลายยังช่วยปกป้องอวัยวะเพศที่อาจทำการเสียดสีกับชุดชั้นในหรือวัตถุแปลกปลอม ดังนั้นจะทำการขลิบหนังหุ้มปลายหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และไม่มีคำตอบที่แน่ชัดหรือตายตัว
3ลักษณะผู้ชาย ที่ควรขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะ:
1. ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ
หรือภาวะหนังหุ้มปลายไม่เปิด คือขณะที่องคชาตของคุณผู้ชายตั้งตรง แต่อวัยวะเพศถูกหนังหุ้มปลายปิดสนิทและหัวอวัยวะเพศชายไม่สามารถออกมาได้ หากคุณไม่มีเอาหนังหุ้มปลายอวัยวะลง เพื่อให้หัวอวัยวะโผล่ออกมา หรือเมื่อเอาหนังหุ้มลงแล้วเกิดการติดขัด ไม่สามารถดันกลับขึ้นได้ ก็คือลักษณะของภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ
เมื่ออวัยวะเพศของคุณผู้ชายมีการแข็งตัว หัวอวัยวะเพศก็จะโพล่พ้นหนังหุ้มอวัยวะด้วยตัวเอง หรือเมื่อใช้มือขยับก็สามารถทำให้หัวอวัยวะโผล่พ้นหนังหุ้มปลายอวัยวะ ถือเป็นอาการปัญหาหนังหุ้มปลายยาวมากเกินไป ซึ่งบางคนเรียกว่า "อาการภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบเท็จ"
2. การอักเสบและการติดเชื้อซ้ำๆ
แม้ว่าจะทำความสะอาดหนังหุ้มปลายอย่างเป็นประจำ หรือถึงขั้นหลังจากเอาหนังหุ้มปลายอวัยวะลง แล้วล้างทำความสะอาดอวัยวะด้วยน้ำหรือน้ำยาที่ระคายเคืองต่ำ เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้ว เช็ดอวัยวะเพศและหนังหุ้มปลายจนแห้ง แล้วค่อยดันหนังหุ้มปลายกลับขึ้น แม้ทำถึงขั้นนี้ แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งหรือหลีกเลี่ยงการเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อซ้ำได้ ดังนั้นหากพบปัญหาลักษณะนี้ ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อประเมินอาการว่าจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่
3. ผู้ป่วยเบาหวาน
แม้ว่าผู้ป่วยเบาหวานจะไม่มีปัญหาหนังหุ้มปลายอวัยวะที่ยาวมากเกินไป แต่น้ำปัสสาวะที่น้ำตาลสูงหรือความหวานของปัสสาวะ มักจะง่ายต่อการเพิ่มการผสมพันธุ์ของแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดภาวะหนังหุ้มปลายอักเสบซ้ำซาก หรือเกิดการปัสสาวะลำบาก ลักษณะนี้ขอแนะนำให้ทำการขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศ
ความเชื่อการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะ
ความเชื่อ ที่ 1 : การขลิบมีผลต่อขนาดหรือไม่?
การขลิบไม่มีความเกี่ยวข้องกับขนาดขององคชาต หรือก็คือแม้จะทำการขลิบแล้ว ก็ไม่ทำให้ขนาดอวัยวะเพศของคุณผู้ชายใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตาม อวัยวะเพศของผู้ชายบางคนอาจถูกหนังหุ้มปลายห่อรัดองคชาตแน่นเกินไป ดังนั้นก่อนเกิดการแข็งตัว องคชาตก็จะอยู่ในลักษณะถูกหนังหุ้มปลายพันแน่น หลังจากทำการขลิบหนังหุ้มปลายแล้ว องคชาตก็จะไม่ถูกผูกมัดหรือรัดแน่นอีกต่อไป ส่งผลให้รู้สึกเหมือนอวัยวะเพศใหญ่ขึ้นหลังการขลิบ
ความเชื่อ ที่ 2 : การขลิบสามารถรักษาการหลั่งเร็วได้?
เมื่อเราใช้งานส่วนใดส่วนหนึ่งบ่อยๆ เริ่มแรกอาจจะมีอาการแดง บวม และเจ็บ แต่เมื่อมีการใช้บ่อยครั้ง หนังกำพร้าของเราจะทำการปกป้องผิวหนังด้วยการทำให้ผิวหนังหนาขึ้นก่อตัวเป็นcallus ดังนั้นหลังทำการขลิบหนังหุ้มปลาย คุณผู้ชายจะมีความอึดทนมากขึ้น ถือเป็นทฤษดีที่มีเหตุผล เมื่ออวัยวะเพศและหัวอวัยวะไม่มีหนังหุ้มปลายปกป้อง ดังนั้นมักจะมีการเสียดสีกับชั้นในหรือวัตถุโดยตรงเป็นเวลานาน จึงทำให้ความอ่อนไหวลดลง จำเป็นต้องมีการกระตุ้นที่รุนแรงหรือมากขึ้น ถึงจะทำให้มีความต้องการถึงจุดสุดยอด และเพราะเหตุผลนี้จึงทำให้รู้สึกราวกับว่าหลังทำการขลิบแล้ว ความอึดทนก็จะเพิ่มขึ้น
ความเชื่อ ที่ 3 : การขลิบช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้?
ถ้าหนังหุ้มปลายอวัยวะไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างเป็นประจำ บรเวณหนังหุ้มปลายถือเป็นที่ซ่อนสิ่งสกปรกและแหล่งอาศัยของไวรัสที่ดีที่สุด ดังนั้นหากทำการขลิบหนังหุ้มปลาย ไม่เพียงแต่ลดการอักเสบเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสปละความเสี่ยงการเกิดมะเร็งองคชาต
ความเชื่อ ที่ 4 : การขลิบตอนเด็ก เมื่อโตแล้วจะกลายเป็นนกตัวใหญ่?
นอกเหนือจากปัญหาสุขภาพร่างกาย จึงมีความจำเป็นต้องทำการขลิบ ในวัยที่อวัยวะเพศยังไม่เติบโตเต็มที่ การขลิบสามารถป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียและการติดเชื้อืางปัสสาวะในวัยเด็ก ขอแนะนำให้รอจนถึงวัยมัธยมศึกษาตอนต้น รอหนังหุ้มปลายและหัวอวัยวะแยกออกจากกันโดยธรรมชาติ จากนั้นปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะว่าจำเป็นต้องทำการขลิบหรือไม่ และไม่ว่าการขลิบจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่หรือวัยไหน ก็ไม่มีผลกับขนาดขององคชาต